ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ปรับตัวร่วงทำจุดต่ำสุด -23.76 จุด แตะระดับ 1,653.03 จุด “กสิกรไทย” เผย หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ดิ่งหนักสุด “KCE -5.08%, HANA -4.62%, DELTA -1.99%” หลังนักลงทุนตกใจรายงานเฟด นักลงทุนเทขาย “ถือเงินสด” รอดูสถานการณ์ มองกรอบพรุ่งนี้ทดสอบแนวรับ 1,650 จุด

วันที่ 6 มกราคม 252565 นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นวันนี้ว่า ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,653.03 จุด ปรับตัวลดลง 23.76 จุด หรือ -1.42% โดยปิดตลาดวันนี้เป็นจุดที่ดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดของวัน ในขณะที่ระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,666.22 จุด มีมูลค่าการซื้อขายรวมอยู่ที่ 106,476.76 ล้านบาท

โดยหุ้นเกือบทุกกลุ่มร่วงหมด ยกเว้นหุ้นประกันภัยและหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยหลักๆ ที่ร่วงนำตลาดวันนี้คือหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE -5.08%, HANA -4.62%, SMT -3.05%, DELTA -1.99%)

ทั้งนี้เป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เพราะตกใจรายงานผลประชุมซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) 2 เรื่องคือ 1.จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น และ 2.อาจจะพิจารณาลดขนาดงบดุล (Quantitative tightening) ซึ่งทำให้นักลงทุนตกใจเพราะว่าไม่คาดคิดว่าเฟดจะหยิบเรื่องนี้มาพูดในเวลาที่เงินเฟ้อยังไม่ใช่สัญญาณที่น่ากลัวขนาดนั้น โดยรอบก่อนเฟดใช้วิธีขึ้นดอกเบี้ยไปสักระยะหนึ่งก่อนให้ตลาดนิ่ง แล้วค่อยๆ ลดขนาดงบดุลช้าๆ โดยขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกปลายปี 2558 และเริ่มลดขนาดงบดุลจริง ๆ ประมาณปี 2560-2561

เพราะฉะนั้นรอบนี้ถ้าขึ้นดอกเบี้ยแล้วอาจจะปรับลดงบดุลเลย แสดงว่าเพียงแค่ปีเดียวเฟดจะทำทั้งมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แล้วขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุล ทำให้ทุกสินทรัพย์ทั้งหุ้น, พันธบัตร, คริปโทเคอร์เรนซี, คอมมิวนิตี้ ปรับตัวร่วงลงหมด โดยนักลงทุนกลับมาถือเงินสดเพื่อรอดูว่าสถานการณ์ก่อน

ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.2565) ประเมินดัชนีทดสอบแนวรับ 1,650 จุด จะรับอยู่ไม่อยู่ต้องพิจารณาอีกครั้ง โดยประเมินรอบนี้พอร่วงไปถึงจุดหนึ่งจะมีแรงซื้อกลับ เพราะตัวตัดสินใจเฟดจะใช้มาตรการ QT แรงไม่แรงคือเงินเฟ้อ โดยตลาดคาดว่า เงินเฟ้อจะพีกช่วงไตรมาส 2/2565 เพราะฉะนั้นหากเป็นไปตามที่ตลาดคาด และเริ่มลดลงครึ่งปีหลังของปี 2565 หลังจากนั้นตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้น แต่หากไม่ใช่ตามนั้นตลาดหุ้นจะปรับตัวลงหนัก

มองกรอบการเคลื่อนไหวแนวรับ 1,650 จุด และแนวรับถัดไป 1,620 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,680 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตามคือสถานการณ์โควิดโอมิครอน ที่จะเข้ามากระทบในระยะสั้น แต่ตลาดคงไม่ให้น้ำหนักมาก แต่อาจจะมีแรงขายหุ้นท่องเที่ยวและโรงกลั่นบ้าง แต่จังหวะที่ย่อตัวลงมาค่อนข้างน่าซื้อ โดยคาดการณ์ว่าหลังจากนี้สถานการณ์โควิดโอมิครอนน่าจะจบกลางปี’65